E-Gamerth | เว็บโหลดเกม PC ฟรี ลิ้งค์ตรง โหลดแรง

ปฏิเสธไม่ได้ว่า Tales of Vesperia เป็นหนึ่งในเกมจากซีรีส์ Tales of ที่ได้รับความนิยมชอบจากแฟนคลับและก็นักวิจารณ์มากที่สุดภาคหนึ่ง ด้วยเหตุว่าด้วยการออกแบบผู้แสดงและเรื่องราวที่ถูกจริตคนรักอนิเมะ ระบบการต่อสู้สุดแสนเป็นเอกลักษณ์ อื่นๆอีกมากมาย ซึ่งการนำกลับมาวางจำหน่ายอีกรอบในฉบับรีมาสเตอร์ที่เพิ่มชื่อพ่วงท้ายเข้าไปว่า Definitive Edition ก็เป็นเครื่องรับรองชั้นเลิศถึงคุณภาพในเกมภาคดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้ว


การเดินทาง ไม่จำเป็นเท่าระหว่างทาง
Tales of Vesperia: Definitve Edition เป็นการนำตัวเกมจากเวอร์ชั่นที่ลงให้กับเครื่องเล่น PlayStation 3 กลับมาอีกครั้งในฉบับรีมาสเตอร์ที่ก็แน่ๆว่าการนำเกมกลับไปสู่ตลาดอีกทีในชนิดนี้ จะไม่ค่อยเกิดผลกระทบใดๆกับแกนหลักทั้งหมดในเกมสักเท่าไหร่ (ระบบการเล่น, เรื่องราว เสียง อื่นๆอีกมากมาย)

โดยเรื่องราวใน Tales of Vesperia เกี่ยวกับ Terca Lumireis (โลกพื้นหลังของเกมในภาคนี้) โลกที่ประชากรต่างใช้เครื่องไม้เครื่องมือเทคโนโลยีจากอารยธรรมโบราณเมื่อ 1,000 ปีก่อนอย่าง Blastia ที่ต้องซึมซับพลังงาน Aer ให้แปลงเป็นแหล่งให้พลังงานหลากหลายอีกทอด ไล่ตั้งแต่การสร้างน้ำโดยไม่ต้องพึ่งแหล่งเกิด, การนำมาใช้เป็นพลังงานให้กับเครื่องจักรขนาดมหึมา ไปจนกระทั่ง “การสร้างบาเรียขนาดใหญ่เพื่อใช้คุ้มครองป้องกันเหล่าอสูรร้ายจากโลกด้านนอก”

แต่แล้ววันหนึ่ง Blastia จากเมือง Zaphias ในเขตชนชั้นกรรมกรได้ถูกขโมยไปอย่างปัญหาจนกระทั่งนำมาซึ่งการทำให้เขตดังที่กล่าวมาแล้วขาดแคลนแหล่งน้ำสะอาดที่ไว้ใช้อุปโภคแล้วก็บริโภค Yuri Lowell (ผู้แสดงนำของเกม) สมัยก่อนทหารองค์รักษาเมืองมากความสามารถที่ชั่วชีวิตอาศัยอยู่ ผูกพันรวมทั้งมีใจรักสำหรับการช่วยเหลือเพื่อนพ้องในเขตเดียวกัน ก็เลยจำต้องออกตามหาและก็ทวงมันคืนมาผ่านการเดินทางที่ได้พบเห็นมิตรภาพรวมทั้งเหตุที่เกินกว่าที่ตัวเขานั้นจะคาดการณ์

นักเขียนว่าเส้นเรื่องหลักในภาคนี้ยังสู้ภาคอื่นๆมิได้สักเท่าไหร่ บางทีอาจด้วยจังหวะการเล่าของเรื่องราวหลักที่ไปอย่างเฉื่อย แล้วก็ชอบถูกแทรกด้วยหลายสถานะการณ์ แต่กระนั้นก็มีสิ่งที่ทำออกมาได้ต้องใจคนเขียนอย่างมากมาย มันก็คือเหล่าตัวละครในกลุ่มของเราที่มีติรวมทั้งเคมีที่ถูกกันอย่างลงตัว พระเอกของเกมที่ไม่ชอบผู้ดีมีตระกูลแต่จำเป็นต้องไม่ตั้งใจได้ร่วมเดินทางไปกับเจ้าหญิงผู้ไม่มีอ่อนต่อโลกที่พร้อมเปิดใจรับมิตรภาพจากผู้คนทุกรูปแบบไม่เว้นต่อให้จอมเวทย์สาววัยเยาว์ผู้มันสมองยอดเยี่ยมที่แม้ตัวคุณจะถูกใจแสดงกิริยาแข็งกระด้างและก็ขี้อารมณ์เสียผู้คนรอบข้าง แต่ว่าแท้จริงแล้วคุณกลับรู้สึกผูกพันกับกลุ่มก๊วนของพวกเรา ฯลฯ

“การเดินทาง อาจไม่มีความสำคัญเท่าระหว่างทาง” นี่แหล่ะคือกลุ่มคำที่เหมาะสมกับ Tales of Vesperia อย่างถึงที่สุด ซึ่งความดีเลิศในส่วนนี้ก็ยังจะถูกค้ำชูด้วยฟีเจอร์ตลอดมาของซีรีส์อย่างคัทซีนเสริม ซึ่งสามารถเลือกจะดูหรือไม่ก็ได้ไพเราะเพราะพริ้งไม่ทำให้เกิดผลกระทบใดต่อเนื้อเรื่อง ที่แม้ว่าจะเป็นเพียงแต่นักแสดงในกรุ๊ปของพวกเราสนทนาแล้วก็แสดงจริตของตัวเองถึงสถานะการณ์ในขณะนั้นๆแต่หากพวกเราเข้าถึงหรือว่าถูกใจเคมีของกรุ๊ปนักแสดงแล้ว ฟีพบร์นี้ก็จะก่อให้พวกเรารู้สึกผูกผันกับพวกเขาเข้าไปอีกขั้น

เกม RPG ที่มีลูกล่อลูกชนด้วยระบบต่อสู้แอกชั่น

นอกเหนือจากการพรีเซ็นท์เรื่องราวรวมทั้งมิติของนักแสดง โหลดเกมส์ pc ฟรี ระบบการต่อสู้แบบแอกชั่นคือจุดเด่นตลอดมาของซีรีส์ Tales of ที่มีเอกลักษณ์มากพอจนโดดเด่นกว่า JRPG เจ้าอื่นด้วยกัน แถมระบบดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นก็มิได้ถูกทำออกมาแบบพอเป็นพิธี แต่ว่ามันคือแอกชั่นที่มีตรรกะของเกมแนวนี้จริงๆหลบเป็นหลบ โดนเป็นโดน มิได้วัดผลลัพธ์ด้วยค่าสเตตัสตัวละคร (แม้กระนั้นถ้าหากเป็นพลังเวทย์นี่หลบมิได้นะ)

ซึ่งใน Tales of Vesperia และก็ในเวอร์ชั่น Definitve Edition นี้ ก็ยังคงไว้ซึ่งของเดิมทุกระแทรกนิ้ว โดยจากในต้นฉบับของภาคดังกล่าวนั้นได้เพิ่มความยืดหยุ่นสำหรับการต่อสู้เข้าไปอีกขั้นด้วยการเคลื่อนที่ได้ถึง 8 แกนแนวทาง (ขึ้น, ลง, ซ้าย, ขวา, เฉียงด้านล่าง, เฉบน) จากที่แล้วมาจะเคลื่อนที่ได้แค่แนวขนาน ซึ่งก็ทำให้การต่อสู้มีความคล่องตัวและก็สร้างความเป็นต่อสำหรับเพื่อการต่อสู้ได้มากขึ้น อย่างเช่นการอ้อมหลังแนวหน้าศัตรูไปจู่โจมตัวที่อ่อนแอกว่า, เขยื้อนเพื่อหลบจู่โจมที่เอาจริงเอาจังและกินพื้นที่ในจังหวะที่เฉียดฉิว เป็นต้น



แถมอีกทั้งการต่อสู้ในเกมก็ยังถูกช่วยเหลือด้วยระบบปรับปรุงผู้แสดง (Progression) ที่เชิญให้ติดพันไปกับการเล่นนอกเหนือจากการตามติดความเพลิดเพลินด้านเรื่องราวของเกม ไม่ว่าจะอีกทั้งการปลดล็อค Artes (สกิลใช้ในตอนต่อสู้โน่นแหล่ะ แต่ว่าซีรีส์ Tales of ใช้คำนี้เรียกแทน) ขั้นสูง เมื่อเอาอย่างเงื่อนไขสำเร็จที่ค่อนข้างจะคุ้มค่าจ้าง อาทิ ใช้สกิล A และก็ B ให้ครบ 100 รอบ, สวมใส่อาวุธจำพวกนี้ถึงจะใช้ได้ อื่นๆอีกมากมาย, สกิลเสริมที่จะฝังมากับอาวุธ/เครื่องแต่งกายแม้กระนั้นสามารถศึกษาติดตัวได้เมื่อได้รับแต้มจากการต่อสู้ครบตามปริมาณ ซึ่งก็จะช่วยกำหนดทิศทางการต่อสู้ของผู้เล่นในระดับหนึ่ง ยกตัวอย่างเช่น ทำให้ผู้แสดงของเราเก่งด้านการตั้งรับทั้งยังท่ากดหลบการโจมตีที่เพิ่มเข้ามา หรือจากการได้รับค่าสถานะที่มากขึ้น ฯลฯ

ความสามารถที่ไม่น่าพึงพอใจสักเท่าไหร่

คนเขียนรีวิว Tales of Vesperia Definitive Edition ในฉบับ PlayStation 4 และได้ใช้เครื่องเวอร์ชั่น Slim สำหรับในการเล่น โดยสิ่งที่มองเห็นจากการเพิ่มเสริมเข้ามาเลยคือเรื่องของเฟรมเรตที่ถูกดันขึ้นให้เปลี่ยนเป็น 60 fps แต่ในหลายจังหวะของการเล่น ตัวเกมก็มีปัญหาเฟรมเรตหลุดล่วงลงมาที่มีตั้งแต่นิดหน่อยไปจนกระทั่งร่วงหล่นจนถึงน่าตกใจ ซึ่งในส่วนนี้ไม่รู้เรื่องว่าเป็นเนื่องจากตัวเครื่องของนักเขียนเป็นรุ่น Slim หรือเปล่า? แต่ถ้าหากเป็นเพราะฉะนั้น มันก็ควรถูกนับเป็นข้อสังเกตอยู่ดี เนื่องจากว่าอย่าลืมว่าเครื่องเล่นคอนโซลมีสเปคและฮาร์ดแวร์ตัวเดียวกัน ไม่ได้มีปัญหาจิปาถะนานาจิตตังราวกับเวอร์ชั่น PC

ในตอนที่ด้านความละเอียดของภาพที่ถูกปรับให้เป็น FullHD ก็กลายเป็นขยายรูปร่างที่มิได้ทำให้ตัวเกมมองชัดเจนหรืองามขึ้นมาอย่างก้าวกระโจนสักเท่าไหร่ “แต่ว่าด้านความสามารถในข้อนี้ คนเขียนมองได้สองแง่นะ” คือถ้าในมุมที่รู้เรื่อง พวกเราก็จะรู้กันว่าเวอร์ชั่นรีมาสเตอร์นี้เป็นการนำภาคที่วางจำหน่ายบน PlayStation 3 ที่ออกมาตั้งแต่ปี 2009 ซึ่งมันก็เก่ามากมายแล้วและก็ตัวเกมมันมีสัดส่วนภาพเพียง 1280 x 576 แต่ถ้ามองในมุมความคุ้มค่าที่วัดจากราคาเป็นหลัก คนเขียนบอกได้คำเดียวเลยขอรับว่าไม่คุ้มอย่างแรง

คุ้มค่าถ้าไม่เคยเล่นมาก่อน

โดยรวม Tales of Vesperia Definitive Edition บางทีอาจเป็นการรีมาสเตอร์ที่ไม่คุ้มสักเท่าไหร่ถ้าหากวัดจากด้านความสามารถ แต่ถ้าเกิดคุณไม่เคยได้สัมผัสซีรีส์นี้มาก่อน “นี่เป็นภาคที่คู่ควรแก่การเปิดศักราชเป็นอย่างยิ่ง” หรือถ้าคุณจะต้องซื้อมาสะสมเพื่อย้อนวันวานที่เคยมีความสุขไปกับตัวเกมนี้แล้วล่ะก็ “ซื้อเหอะครับผมเพราะว่านี่ความจำของคุณนะ”